เอ? มันคืออะไรกันนะ ที่เรียกว่า “หมาวฮวามี่เหาถาว” อย่าได้แปลกใจเพราะเราไม่เคยได้ยินชื่อเรียกผลไม้ชนิดนี้ในภาษาจีนกลางมาก่อน แต่ถ้าได้เห็นรูปประกอบแล้ว ก็คงเข้าใจได้แจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า มันคือ ผลกิวี นี่เอง ผลกิวีที่เราเห็นได้กินกันนั้นมีชื่อเรียกหลายชื่อ กิวีฟรุต ก็เรียก กิวีเบอรี่ก็เรียก ไชนีสกูซเบอรี่ ก็เรียกกัน และชื่อที่เรียกตามหลักวิชาการตั้งชื่อพันธุ์พืชก็คือ Actinidia sinensis
คำว่า หมาวฮวา ในภาษาจีนกลางนั้น แปลความได้ว่า ดอกที่เป็นขน เมื่อนำคำมาเชื่อมรวมกันกับ มี่เหาถาว แล้ว ก็หมายถึง กิวีฟรุต ที่มีดอกเป็นขนนั่นเอง คนจีนนิยมเรียกผลไม้ว่า หลี (梨) หรือไม่ก็ ถาว (桃) ที่เราได้ยินกันในภาษาแต้จิ๋วว่า ท้อ นั่นเอง มิใช่อะไรไกลอื่น ดังนั้น ผลกิวี ที่ชาวจีนเรียกกัน จึงแปลความเป็นไทยได้ว่า ท้อลิงมี่เหา (มี่เหาเป็นชื่อเรียกลิงสายพันธุ์หนึ่ง / Macaca) คงจะเป็นด้วยเพราะผิวเปลือกนอกของผลไม้ชนิดนี้มีขนขึ้นคลุมที่มองดูแล้วเหมือนขนของลิงชนิดนี้ก็เป็นได้ จึงได้ชื่อนี้มาประดับตัว แต่ผิดคาด ไม่ใช่หรอกครับ ที่มันได้ชื่อเรียกดังนี้ เพราะว่ามันเป็นผลไม้ที่ลิงชนิดนี้ชอบกินมากที่สุด จึงได้รับสมญานามดังนี้แล ถ้าหากจะตั้งชื่อผลไม้ชนิดนี้เป็นภาษาไทยก็น่าจะเรียกว่า หนุมานผล หรือไม่ก็เรียกว่า มะเจี๊ยก (ตรงนี้อย่าได้จริงจังนะครับ เอาเป็นว่าสร้างอารมณ์ขันอารมณ์คันกันบ้างนิดหน่อยในยามบ้านเมืองเรากำลังเข้าสู่ภาวะตึงเครียดกันอีกแล้ว) เนื่องด้วยประเทศจีนมีขนาดพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ชนชาติหลากหลายเหลือคณา ชื่อผลไม้ชนิดหนึ่งอาจมีชื่อเรียกเป็นร้อยชื่อก็เป็นได้ แต่ในที่นี้จะหยิบยกเอาที่นิยมเรียกกันทั่วไปซัก สี่ซ้าห้าชื่อก็พอ
|
กิวีฟรุตสายพันธ์ที่ปลูกกันมากในประเทศนิวซีแลนด์นั้นมีชื่อว่า Hayward kiwi fruit ผลมีลักษณะกลมรีเล็กน้อย มีขนอ่อนนุ่มสีน้ำตาลปกคลุมทั่วทั้งผล เนื้อในสีเขียวมรกต มีไวตามิน C, E, K ค่อนข้างสูง มีไฟเบอร์ที่ย่อยไม่ได้ในปริมาณมาก ปราศจากไขมัน จัดเป็นอาหารลดความอ้วน เสริมความงามด้านสุขภาพที่ดีเลิศ มีสาร โฟลาซินสูง (กรด โฟลิค / ไวตามิน B9) ซึ่งมีผลต่อโครงสร้างความแข็งแรงของร่างกาย ในด้านการป้องกันความผิดปกติของการพัฒนาเส้นประสาทของตัวอ่อนในครรภ์มารดา นอกจากนั้นยังมีสาร lutein (xanthophyll) ที่ป้องกันการเสื่อมสภาพของดวงตาที่ก่อให้เกิดจุดสีเหลืองในแก้วตา และผลกิวีฟรุตนั้นยังประกอบไปด้วยสาร แอนตี้ออกซิแด๊นท์ ที่สามารถกระตุ้นภูมิต้านทานของร่างกายได้ดีอีกด้วย
ผลของกิวีฟรุตนั้นปราศจากไขมัน คลอเลสเตอรอล และยังประกอบไปด้วยสารอาหารมากมายหลายชนิดที่มีปริมาณสูงมากๆ แตกต่างจากผลไม้ชนิดอื่นๆที่มีปริมาณสารอาหารสูงๆเพียง 1 หรือ 2 อย่างเท่านั้น สารอาหารที่ว่านั้นประกอบไปด้วย folic acid 8%, copper 8%, pantothenic acid 8%, calcium 6%, iron 4% vitamin B6 2 %, และยังมีกรดอมิโนหลายชนิดดังนี้ leucine, phenylalanine, isoleucine, tyrosine, valine, alanine อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆอย่าง calcium, phosphorus, iron, มีไวตามิน carotene, vitamin Cในปริมาณที่สูงกว่าผลไม้อื่นๆ บางสายพันธุ์สูงถึง 300 mg หรือกว่านั้น (สูงกว่าส้ม 5 – 10 เท่า สูงกว่า แอปเปิล 15 – 30 เท่า เป็นที่ยกย่องเชิดชูว่า เป็นราชาแห่งผลไม้นั่นเลยทีเดียว
ชาวจีนจัด มี่เหาถาว เป็นผลไม้อาหาร และยา คนที่มีอารมณ์เศร้าหมอง จิตไม่แจ่มใส ไม่เบิกบาน คนที่ชอบกินอาหารย่างปิ้ง คนที่ท้องผูกเสมอๆ จะได้รับการแนะนำจากซินแสหมอจีนให้กินผลไม้ชนิดนี้สม่ำเสมอ จากการคำนวณสารอาหารที่มีอยู่ในผลของ กิวีฟรุต ผู้ใหญ่ที่กิน ผลกิวี 1 ผล ก็ได้รับไวตามิน C และสารเยื่อใยอย่างเพียงพอในหนึ่งวันแล้ว
|